Dont Kill Me (2022) ต้องฆ่า
VIDEO
4.1 
เรื่องย่อ : Dont Kill Me (2022) ต้องฆ่า
ดูหนัง Dont Kill Me (2022) ต้องฆ่า
รีวิวและสปอย
“Dont Kill Me” หรือชื่อภาษาไทยว่า “ต้องฆ่า” เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่สร้างความตื่นเต้นและความหวาดกลัวให้กับผู้ชมได้อย่างมีศิลปะและลึกซึ้ง ตัวเรื่องเริ่มต้นเมื่อพระเอก มาร์โก้ (รับบทโดย อัลแบร์โต้ ทราซี) ได้ถูกจับโดยตำรวจหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาที่สถานที่เกิดเหตุที่เขาไม่สามารถจำอะไรได้เลยเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในคืนก่อนหน้า มาร์โก้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีนี้ และเขาต้องพยายามหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ทั้งนี้เขายังต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิดและความกลัวต่อสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ในขณะที่เขาพยายามหาความจริง มาร์โก้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากตำรวจและจากผู้ที่หวังจะปิดปากเขา ภาพยนตร์นี้สร้างความตึงเครียดได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปิดเผยเบาะแสและความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวละครต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกเรื่องราวความรักระหว่างมาร์โก้และแฟนสาวของเขา ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครมากขึ้น
การเล่าเรื่องใน “Dont Kill Me” มีความซับซ้อนและเต็มไปด้วยการหักมุมที่ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นตลอดทั้งเรื่อง และเมื่อถึงช่วงท้ายของภาพยนตร์ ผู้ชมจะได้เห็นการเปิดเผยที่คาดไม่ถึง ซึ่งจะทำให้ทุกคนต้องคิดทบทวนว่าความจริงคืออะไร และการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นนั้นมีความหมายอย่างไรต่อชีวิตของตัวละคร
นักแสดงในเรื่อง
- อัลแบร์โต้ ทราซี รับบท มาร์โก้
- ลอเรนซ่า อาร์ริออส รับบท แฟนสาวของมาร์โก้
- ฟรานเชสโก้ ลาเฟอรี่ รับบท ตำรวจ
- มาร์ตินา เปรซอส รับบท เพื่อนของมาร์โก้
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
“Dont Kill Me” ได้รับคะแนน 6.5 จาก 10 บน IMDB และคะแนน 75% บน Rotten Tomatoes โดยภาพยนตร์นี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมในเรื่องความตื่นเต้นและการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ
สรุป
โดยรวมแล้ว “Dont Kill Me” เป็นภาพยนตร์ที่มีความท้าทายทั้งในด้านการเล่าเรื่องและการสร้างอารมณ์ให้กับผู้ชม ด้วยการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและการเปิดเผยที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้ชมรู้สึกติดตามและสนุกสนานไปกับการค้นหาความจริงของมาร์โก้ นอกจากนี้ การแสดงของนักแสดงหลักก็ได้ช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวละคร ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจถึงแรงจูงใจและความรู้สึกของพวกเขาได้อย่างลึกซึ้ง
หากคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่มีการหักมุมและความซับซ้อน “Dont Kill Me” จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน ภาพยนตร์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจและควรค่าแก่การรับชมในปี 2022 นี้
