Hitman (Sat sau ji wong) ลงขันฆ่า ปราณีอยู่ที่ศูนย์ (1998)
VIDEO

เรื่องย่อ : Hitman (Sat sau ji wong) ลงขันฆ่า ปราณีอยู่ที่ศูนย์ (1998)
ดูหนัง Hitman (Sat sau ji wong) ลงขันฆ่า ปราณีอยู่ที่ศูนย์ (1998)
รีวิวและสปอย
“Hitman (Sat sau ji wong)” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ลงขันฆ่า ปราณีอยู่ที่ศูนย์” เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น-คอมเมดี้จากฮ่องกงที่ออกฉายในปี 1998 กำกับโดย จอห์น วู ผู้ฝึกฝนการสร้างฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นและรวดเร็ว เรื่องราวเล่าถึงกลุ่มนักฆ่าที่ไปลงขันฆ่าคนแต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับการตามล่าจากตำรวจและคู่แข่งที่มีอำนาจ
เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่กลุ่มนักฆ่าจากองค์กรลับที่ได้รับการว่าจ้างให้ฆ่าคนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่ามีการวางแผนที่ซับซ้อนมากกว่าที่คิด ทุกคนในกลุ่มต่างมีแรงจูงใจและปัญหาส่วนตัวที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันเอง โดยหนังจะนำเสนอการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและฉากแอ็คชั่นที่เข้มข้น
สิ่งที่ทำให้ “Hitman” โดดเด่นคือการผสมผสานระหว่างความตลกขบขันและความตึงเครียดในสถานการณ์ ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นการพัฒนาของตัวละครอย่างลึกซึ้ง ทั้งในด้านจิตใจและความสัมพันธ์ระหว่างกัน มีการใช้มุกตลกที่เข้ากันกับฉากแอ็คชั่นได้อย่างลงตัว และทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกสนานตลอดเวลา
นักแสดงในเรื่อง
- หลิวเต๋อหัว รับบทเป็น โจ นักฆ่าที่มีความซับซ้อนในบุคลิกภาพ
- จางม่านอิง รับบทเป็น เหมียว หญิงสาวที่มีบทบาทสำคัญในแผนการฆ่า
- หลิวเจียหลิง รับบทเป็น แม็กซ์ นักฆ่าที่มีความสามารถพิเศษ
- หวังจือเหวิน รับบทเป็น ตำรวจ ที่พยายามจับกลุ่มนักฆ่า
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB ของ “Hitman (Sat sau ji wong)” อยู่ที่ 6.7/10 ซึ่งแสดงถึงความนิยมและการตอบรับที่ดีจากผู้ชม ส่วนคะแนนจาก Rotten Tomatoes ยังไม่มีการจัดอันดับที่ชัดเจน แต่เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ก็ถือว่าค่อนข้างดี โดยเฉพาะในด้านการสร้างสรรค์และการแสดงของนักแสดง
สรุป
โดยรวมแล้ว “Hitman (Sat sau ji wong)” เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างความตลกขบขันและฉากแอ็คชั่นได้อย่างลงตัว เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มนักฆ่าที่ต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงจากการทำงานที่ไม่คาดคิด และในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร
หากคุณกำลังมองหาหนังที่มีทั้งความตื่นเต้นและความสนุกสนาน “Hitman” จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่ไม่ควรพลาด ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมจากนักแสดงนำและการกำกับที่ชาญฉลาด ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของวงการหนังฮ่องกงในยุคนั้น