Pride & Prejudice (2005) ดอกไม้ทรนง กับชายชาติผยอง
VIDEO

เรื่องย่อ : Pride & Prejudice (2005) ดอกไม้ทรนง กับชายชาติผยอง
ดูหนัง Pride & Prejudice (2005) ดอกไม้ทรนง กับชายชาติผยอง
บทนำ
“Pride & Prejudice” หรือ “ดอกไม้ทรนง กับชายชาติผยอง” เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายคลาสสิคของเจน ออสเตน ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1813 โดยภาพยนตร์ฉบับปี 2005 นี้ได้กำกับโดยโจ ไรท์ (Joe Wright) และมีความยาวประมาณ 129 นาที เป็นเรื่องราวที่นำเสนอเกี่ยวกับความรักและการต่อสู้ในสังคมชนชั้นของอังกฤษในยุคศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในเรื่องของความต้องการของผู้หญิงในสังคมที่มีข้อจำกัดมากมาย
นักแสดงในเรื่อง
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น:
- Kiera Knightley รับบทเป็น เอลิซาเบธ เบนเน็ต (Elizabeth Bennet)
- Matthew Macfadyen รับบทเป็น นายดาร์ซี่ (Mr. Darcy)
- Rosamund Pike รับบทเป็น จอร์เจียน่า ดาร์ซี่ (Georgiana Darcy)
- Donald Sutherland รับบทเป็น นายเบนเน็ต (Mr. Bennet)
- Keira Knightley รับบทเป็น ลิเดีย เบนเน็ต (Lydia Bennet)
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
สำหรับคะแนนที่ได้รับจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง:
- คะแนน IMDB: 7.8/10
- คะแนน Rotten Tomatoes: 87% (ผู้ชม 87%)
สรุปเนื้อเรื่อง
“Pride & Prejudice” เล่าเรื่องราวของครอบครัวเบนเน็ต ซึ่งมีลูกสาวห้าคนที่ต้องหาผู้ชายที่เหมาะสมเพื่อประกันอนาคตของพวกเธอ ในขณะที่สังคมในยุคนั้นมีความสำคัญต่อการแต่งงานมาก พวกเขาต้องเผชิญกับความคาดหวังของสังคมและความรักที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างเอลิซาเบธกับนายดาร์ซี่ ผู้ชายที่ดูเหมือนจะหยิ่งและมีอำนาจ แต่ก็มีความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในตัวตน
เริ่มต้นจากการที่นายดาร์ซี่ปฏิเสธที่จะเต้นรำกับเอลิซาเบธ ทำให้เธอคิดว่าเขาเป็นคนที่หยิ่งผยอง แต่เมื่อเวลาผ่านไป และได้รู้จักกันมากขึ้น เอลิซาเบธเริ่มเห็นถึงความจริงใจและความซับซ้อนของนายดาร์ซี่ ในขณะที่นายดาร์ซี่เองก็เริ่มปรับเปลี่ยนทัศนคติและความรู้สึกต่อเอลิซาเบธ
ผ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการเข้าใจผิดและความขัดแย้งนี้ ผู้ชมจะได้เห็นการเติบโตของตัวละคร การเปลี่ยนแปลงความคิดและการยอมรับในความรักที่แท้จริง ในที่สุดเอลิซาเบธและนายดาร์ซี่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และพบกับความสุขที่แท้จริงร่วมกัน
ข้อคิดและความสำคัญของภาพยนตร์
ภาพยนตร์ “Pride & Prejudice” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวความรักที่น่าติดตาม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางสังคมในยุคนั้น เช่น การจำกัดสิทธิของผู้หญิง การคาดหวังในเรื่องการสมรส และการประเมินค่าของบุคคลตามสถานะทางสังคม นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารถึงความสำคัญของการไม่ตัดสินคนจากภายนอก การเปิดใจและการเข้าใจในความแตกต่างของกันและกัน
ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยม บทที่ลึกซึ้ง และการสร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหล “Pride & Prejudice” จึงเป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม และเป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นในวงการภาพยนตร์โรแมนติก