The Dig (2021) กู้ซาก
VIDEO
6.9 
เรื่องย่อ : The Dig (2021) กู้ซาก
ดูหนัง The Dig (2021) กู้ซาก
บทนำ
The Dig (2021) เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงซึ่งเกิดขึ้นในปี 1939 ที่ประเทศอังกฤษ เรื่องราวเกี่ยวกับการขุดค้นที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในที่ดินของ Edith Pretty (รับบทโดย Carey Mulligan) ซึ่งเป็นหญิงสาวที่มีความสนใจในโบราณคดี เธอได้ตัดสินใจจ้างนักโบราณคดี Basil Brown (รับบทโดย Ralph Fiennes) เพื่อทำการขุดค้นที่ดินของเธอ ซึ่งนำไปสู่การค้นพบที่มีค่าและสำคัญมากมาย โดยเฉพาะเรือขุดโบราณที่มีอายุหลายร้อยปี
นักแสดงในเรื่อง
- Carey Mulligan รับบท Edith Pretty
- Ralph Fiennes รับบท Basil Brown
- Johnny Flynn รับบท Robert Lacey
- Ben Chaplin รับบท David Pearce
- Monica Dolan รับบท May Brown
- Ken Scott รับบท Mr. Wace
สปอยล์และเนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องของ The Dig เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Edith Pretty ตัดสินใจที่จะทำการขุดค้นที่ดินของเธอ โดยที่เธอเชื่อว่ามีโบราณวัตถุที่สำคัญซ่อนอยู่ในดิน เธอจึงได้ติดต่อกับ Basil Brown นักโบราณคดีที่มีความชำนาญในด้านนี้ Brown เริ่มทำการขุดค้นและในที่สุดก็ได้ค้นพบเรือโบราณที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “Sutton Hoo” การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตัวละครทั้งสองคน โดยเฉพาะ Edith ที่มีชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องราวของการสูญเสียและความเจ็บปวด
ในระหว่างการขุดค้น พวกเขาเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงการตัดสินใจที่ยากลำบากเกี่ยวกับการเก็บรักษาโบราณวัตถุและการรับมือกับความสนใจจากนักวิชาการและนักข่าว นอกจากนี้ยังมีความตึงเครียดระหว่างนักโบราณคดีที่มาร่วมงาน ซึ่งทำให้เกิดการต่อสู้ทางความคิดและอุดมการณ์ที่สะท้อนถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
สำหรับคะแนนของ The Dig จาก IMDB คือ 7.1/10 และจาก Rotten Tomatoes มีคะแนนอยู่ที่ 86% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์
สรุป
The Dig เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวที่มีความลึกซึ้งเกี่ยวกับการค้นพบทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญและมีค่า ไม่เพียงแต่ในแง่ของโบราณคดี แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์และการต่อสู้ภายในจิตใจของตัวละคร การแสดงของนักแสดงนำอย่าง Carey Mulligan และ Ralph Fiennes ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างมีพลัง
ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการเล่าเรื่องราวของการค้นพบโบราณวัตถุ แต่ยังเป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างคนและประวัติศาสตร์ การเก็บรักษา และการค้นหาความหมายในชีวิต ซึ่งทำให้ The Dig เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูและประทับใจ
