Shrek 4 Forever After (2010) เชร็ค4สุขสันต์นิรันดร
VIDEO
เรื่องย่อ : Shrek 4 Forever After (2010) เชร็ค4สุขสันต์นิรันดร
ดูหนัง เชร็ค 4 สุขสันต์นิรันดร
รีวิวและสปอย
เชร็ค 4 สุขสันต์นิรันดร (Shrek Forever After) เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่สานต่อเรื่องราวของเชร็คและเพื่อนๆ ของเขา ซึ่งเข้าฉายในปี 2010 โดยเป็นภาคที่สี่ในซีรีส์เชร็ค ภาพยนตร์นี้ได้เล่าเรื่องราวของเชร็คที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตในฐานะสามีและพ่อ หลังจากที่เขาได้พบกับความสุขในชีวิตครอบครัวมานาน เขาจึงเริ่มคิดถึงชีวิตที่เคยเป็นอิสระและเต็มไปด้วยการผจญภัย
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเชร็คได้ทำข้อตกลงกับ รัชเชล (Rumpelstiltskin) เพื่อให้เขาได้กลับไปใช้ชีวิตตามที่ต้องการ แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในโลกที่แตกต่าง เขาพบว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไป เชร็คไม่เคยมีลูก และฟิโอน่า (Fiona) ก็กลายเป็นผู้นำกลุ่มนักรบที่ต่อสู้กับการกดขี่ของรัชเชล ความยุ่งเหยิงนี้ทำให้เชร็คต้องพยายามกลับไปยังโลกที่เขารู้จัก และเขาต้องเรียนรู้ถึงคุณค่าของชีวิตที่เขามี
ภาพยนตร์นี้นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความคิดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความรักและครอบครัว โดยที่มีฉากการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและความรักที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละคร
นักแสดงในเรื่อง
ใน เชร็ค 4 สุขสันต์นิรันดร มีนักพากย์ที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น:
- Mike Myers พากย์เสียงเป็น เชร็ค
- Cameron Diaz พากย์เสียงเป็น ฟิโอน่า
- Eddie Murphy พากย์เสียงเป็น ดอนกี้
- Antonio Banderas พากย์เสียงเป็น พูม่า (Puss in Boots)
- Walt Dohrn พากย์เสียงเป็น รัชเชล
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
ภาพยนตร์ เชร็ค 4 สุขสันต์นิรันดร ได้รับคะแนน IMDB อยู่ที่ 6.3/10 และคะแนนที่ Rotten Tomatoes อยู่ที่ 58% โดยมีคะแนนเฉลี่ยจากผู้ชมประมาณ 60% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชม แต่กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าภาคก่อนหน้านี้
สรุป
โดยรวมแล้ว เชร็ค 4 สุขสันต์นิรันดร เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยอารมณ์ โดยมีการผจญภัยและการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น เชร็คต้องเผชิญหน้ากับความจริงของชีวิตและความรักที่แท้จริงในขณะที่เขาพยายามกลับไปยังชีวิตที่เขารู้จัก การเดินทางของเขาทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความสำคัญของการยอมรับตัวเองและการรักคนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ได้ถูกยกย่องในระดับเดียวกับภาคก่อนๆ แต่ก็ยังคงมีความสนุกสนานและความน่ารักที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกดีเมื่อได้ชม และเป็นอีกหนึ่งบทสรุปที่น่าจดจำในซีรีส์เชร็ค